Petchburi

ออกจากงานสีชมพูที่บางขุนเทียน วันนี้มากันครบทีม
เลี้ยวซ้ายออกไปตามถนนพระรามสอง (แน่นอนไม่ใช่ทางกลับบ้าน)
นึกถึงต้มปลาทูแม่กลอง ว่าจะไปกินสักหน่อยแล้วค่อยกลับบ้าน

ขับมาสักพัก อยากกาแฟ..
ได้ที่แวะคือ "Porto Chino"
Lifestyle Mall บนถนนพระรามสอง

ร้านก็มีเยอะนะ แต่ถ่ายภาพมาไม่กี่ร้าน คือไปเร็วไปหน่อย ส่วนใหญ่ร้านยังไม่เปิด

ยกหนองคายมาไว้ที่นี่
แดงแหนมเนือง ถ้าที่หนองคายเขาคือสุดยอด แต่ที่นี่ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ชิม
แต่ถ้าใช้ของจากที่นั่น รสชาติไม่น่าจะหนีกันมาก
ใครชิมแล้วช่วยบอกหน่อยครับ D Namnuang


ร้านกาแฟร้านดังแบรนด์ต่างแดนตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หน้า Mall
แต่เราไม่กิน มันธรรมดาไป หากินที่ไหนก็ได้

มาจบที่ร้านนี้ "ปังสยาม"



เลือกร้านนี้เพราะพี่อยากได้ขวดนม...




อาหาร/เครื่องดื่ม โดยรวมแล้ว เฉยๆเรื่อยๆนะ พอทานได้

............................................

ออกจาก Porto Chino ก็มุ่งหน้าไปแม่กลองแต่ไม่เจอร้านถูกใจ

คิดหาที่กันใหม่ อยากจะไปหัวหินกันซะงั้น
(นี่มันวันอาทิตย์นะ ไปแล้วต้องกลับค้างไม่ได้)

เอาวะไหนไหนก็ไหนไหน ไปก็ไป
สรุปออกจากแม่กลองโดยที่ยังไม่ได้ทานอะไร หิ้วท้องรอ ไปหากินเอาดาบหน้า

เราเลี้ยวซ้ายออกจากถนนพระรามสองที่บ้านคลองโคน เพราะถนนสาย4012  บรรยากาศดีกว่าถนนใหญ่เยอะ

ขับมาได้สักพัก ถึงบางตะบูน ท้องมันเริ่มทนไม่ไหว ต้องเริ่มมองหาร้านอาหาร
มองเห็นป้ายร้านติดอยู่หน้าชอยเล็กๆ ด้วยความอยากรู้ จึงลองเลี้ยวเข้าไปดู ซอยแคบแต่ไม่ลึกมาก สุดซอยเห็นป้ายร้านชัดๆอีกอันให้แน่ใจว่ามาถูกทางแล้ว


ด้วยความหิว เลยลืมถ่ายบรรยากาศร้าน
ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ 5-10 โต๊ะ
เอาชานบ้านริมน้ำมาทำเป็นร้านอาหาร
เรื่องบรรยากาศที่นี่ผ่านฉลุยครับ




น้ำจิ้มที่นี่รสชาติสะใจดีครับ


หอยหลอดผัดฉ่า
คือหอยใหญ่มากจนน่ากลัว แต่อร่อย


ยำใบชะคราม อันนี้เมนูหากินยาก
เป็นไม้ท้องถิ่นมีรสเค็ม(มาก) พี่หมีคอนเฟิร์ม เพราะลงทุนชิมใบสดมาแล้ว

กว่าจะได้กินต้องผ่านกรรมวิธีการเตรียมมากมาย
แม่ครัวเล่าว่า เขาจะทำครั้งเดียวต่อวันเพราะมันใช้เวลา หมดแล้วหมดเลย

อยากให้ลองครับ เด็ดจริง


ปลากุเลาแดดเดียว วันนี้ยกให้จานนี้เป็นเบอร์หนึ่ง กรอบนอกนุ่มใน ทานได้ยันหาง หอมหวลชวนรับประทานมากๆ


ต้มปลาทูรสจัดจ้าน ปลื้มเลยครับ

ที่เล่ามาข้างต้นรวมกับเห็ดทอดอีกจานที่ลืมถ่าย บวกเครื่องดื่มและเบียร์สองขวด
ทั้่งหมดทั้งสิ้น หกร้อยกว่าๆ
จดไว้เลยครับ ผมจะกลับมาอีกแน่นอน

ตกกันสดๆหน้าร้านเลยทีเดียว
.......................................................

ขับต่อมาเรื่อยๆบนถนน4012 มุ่งหน้าไปตามป้าย ชะอำ
สักพักก็จะถึง บางขุนไทร
ที่นี่คือถิ่นนาเกลือ



มองลอดผ่านกระจกรถ เห็นภาพข้างล่างนี้ อยากได้เหลือเกิน ไม่จอดไม่ได้แล้ว



ตอนที่กำลังงกๆเงิ่นๆกลางแดดจ้าข้างถนน เสียงเจื้อยแจ้วลอยมากับลม
"เข้ามาถ่ายข้างในก็ได้ ถ่ายไปเยอะๆเลย..."

นั่นเป็นเทียบเชิญ ส่งตรงมาจาก ยายเจืองแห่งนาเกลือบางขุนไทร
ไปสิครับ รออะไร


ฟังเส้นทางกว่าจะมาเป็นเกลือที่ยายเล่า มันก็สนุกดีนะ
นาเกลือมันจะมี 4step


ขั้นแรกชาวนาจะไขน้ำเข้ามาในวังขังน้ำ หรือบางคนเรียกนาขัง เพื่อให้สิ่งเจือปนเช่นโคลนตมตกตะกอนลงมาก่อน


จากนั้นจะระบายน้ำที่ได้เข้าสู่นาตาก รอให้น้ำระเหยจนมีความถ่วงจำเพาะที่พอเหมาะพอดี(ผมจำตัวเลขไม่ได้)

เมื่อได้ความถ่วงจำเพาะที่เหมาะสม น้ำจะถูกระบายมาที่นาเชื้อ เพื่อเตรียมปรับความถ่วงจำเพาะให้เหมาะสมกับการตกผลึก

เมื่อความถ่วงได้ที่ รู้สึกว่าจะประมาณ1.2 น้ำจะถูกผันเข้ามายังนาปลง ที่ที่เกลือจะตกผลึก
ในระหว่างที่ตากเกลือน้ำก็จะระเหยไปความถ่วงฯก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อมากไปผลึกของแมกนีเซียมคลอไรด์และแมกนีเซียมซัลเฟตก็จะเกิดขึ้นมาด้วย ซึ่งมันทำให้เกลือแกงไม่บริสุทธิ์ราคาก็จะตก ดังนั้นการควบคุมความถ่วงจำเพาะจึงจำเป็น การลดความถ่วงกลับลงมาก็ทำได้โดยผันน้ำจากนาตากเข้ามา



เมื่อตากจนได้ที่เกลือจะถูกขูดและเกลี่ยรวมกันไว้เป็นกองๆ รอเก็บเข้ายุ้งต่อไป








อัตราค่าหาบเกลือส่วนใหญ่จะจ้างแบบเหมาจ่าย ต่อเกลือหนึ่งแถวในนา



ดอกเกลือ
http://painaithailand.blogspot.com/2016/03/petchburi.html

เคยเล่าไปครั้งหนึ่งแล้ว ขอตัดมาแปะไว้ที่นี่อีกทีนะ


ยายเจือง แห่งนาเกลือบางขุนไทร เล่าว่า
ดอกเกลือ คือผงเกลือเล็กๆ ที่ลอยเป็นแพขึ้นมาในตอนเช้า มันเกิดก่อนเกลือเม็ด
ชาวนาเกลือจะช้อนตักแยกไว้

มันไม่ต้องผ่านกรรมวิธีใดๆ ต่างกันกับเกลือเม็ด เอามากินได้เลย
ไม่เค็มมาก จะเอามาปรุง หรือจะโรยข้าวต้ม ทำอะไรก็อร่อย

รสชาติกลมกล่อม เค็มอมหวาน (เขาว่างั้น)


คนทั่วไปไม่ค่อยจะรู้ แต่พ่อครัวแม่ครัวชั้นยอดรู้กันดี ล้วนแล้วมาเสาะหาเพื่อไปทำอาหารจานเด็ดของพวกเขา แถมราคาสูงกว่าเกลือเม็ดเป็นเท่าตัวเลยนะ

ใครผ่านไป เมืองเพชรฯ ลองแวะชิมดูสิ แล้วกลับมาบอกด้วยนะ ว่ามันอมหวานจริงป่าว :)

ระหว่างที่เดินชมกับนาเกลืออยู่นั้น ยายเจืองยังแนะนำให้รู้จักกับ ชะคราม
อันเดียวกับที่เรากินมาเมื่อเที่ยงนั่นแหละ
ที่นี่เองที่พี่หมีลองชิมใบสดๆ " เค็มจริงพี่!! " นั่นคือคำยืนยัน

มันก็แปลกดีนะ ใบไม้ที่มีรสเค็ม



....................................................................

ใช้เวลาตื่นเต้นกับเรื่องราวใหม่ๆกับสิ่งเก่าๆที่เราเลยผ่านไปทุกครั้งอยู่นานพอสมควร
สมองน้อยๆของพวกเราวิเคราะห์แล้วว่า คงไม่สามารถไปถึงหัวหินได้

กำหนดจุดหมายใหม่สำหรับการกลับรถไปที่หาดปึกเตียน
เป็นอีกที่ที่ผ่านมาเห็นร้อยครั้งแต่ไม่เคยแวะ


เจ้าดอกนี่อยู่บนต้นที่เราใช้แอบร่มให้รถ







 กาแฟหนึ่งแก้ว ลั๊นลากันเล็กน้อย
แล้วเราก็รีบเผ่น หวังใจว่า ขากลับจะได้แสงสวยๆที่นาเกลือ

.................................................................

จบแล้วครับสำหรับตอนนี้
รอติดตามตอนต่อไปนะ
เมืองไทยมีที่ให้ไปอีกเยอะ




ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม