"ปาย กันมั๊ย" ตอนที่3 ปาย ถึงแล้วสินะ

คราวนี้ จะพาไปให้ถึงปาย...

ติดค้างมาหลายตอนแล้ว หลอกพาไปโน่นที นี่ที คราวนี้ ปาย จริงๆนะ

Pai In Town

ถ้าคุณมาจากเชียงใหม่ ใช้เส้นทาง ทล1095 และมาถึงตรงนี้" สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย " โดยสภาพร่างกายปกติ  เชื่อได้ว่าคุณเป็นคนคอแข็งมากๆคนนึง คือไม่เมา(รถ)ง่ายๆ
ผบ.ผมนี่จอดให้อาหารสุนัขตั้งแต่โค้งที่พันกว่าๆแล้ว...


หากคุณรักการขับรถชอบทางที่ตื่นเต้น คุณไม่ควรพลาดถนนเส้นนี้ของเมืองไทยด้วยประการทั้งปวง
มันจะทำให้คุณไม่มีเวลาแม้แต่จะง่วง


เรามาถึงปายตอนบ่ายแก่ๆ กิจกรรมแรกคือ ลุ้นที่พักที่ได้จอง online เอาไว้
ที่เห็นในหน้าจอมันสวยหนักหนา ของจริงจะเป็นไงนะ...

เชื่อเหอะ มีไม่กี่ครั้งหรอกที่ผมจองด้วยวิธีแบบนี้แบบนี้แล้วได้ของถูกใจ

HOTEL des ARTIST Rose of Pai
http://www.hotelartists.com/pai
GPS : 19°21'33" N 98°26'43" E
 

เห็นแค่ทางเข้าก็ตื่นเต้นแล้วสิ บอกก่อนเลยครับ ที่นี่ราคาค่อนข้างสูง ความคาดหวังมันก็สูงตาม
มาลุ้นกันต่อว่ามันจะเปลี่ยนstatusจากราคาสูงกลายเป็นราคาแสนแพงหรือไม่...


เราเลือกห้อง River View ชั้นล่างด้านซ้ายมือ นั่นละห้องของเรา
ถึงแม้วิวริมน้ำจะไม่สวยงามเท่าที่วาดภาพไว้ในหัวตั้งแต่ก่อนมาเสียทั้งหมด แต่มันก็โอเคนะ
ดีใจที่ครั้งนี้ มันอาจดีไม่เท่าที่หวังไว้ แต่ก็ไม่ขี้เหร่นะ

Check in เรียบร้อย ขอนอนพักเอาแรงกันนิดนึงก่อน โดยเฉพาะคุณ ผบ. ที่ใช้พลังงานในการให้อาหารสุนัขไปไม่ใช่น้อย ถ้าไปเที่ยวต่อเลย... คุณเธอต้องกินหัวผมแน่ๆ



เผลอหน่อยเดียวไกล้ค่ำแล้ว หลังจากพลังชีวิตฟื้นคืนมาระดับหนึ่ง ผมขอออกไปเก็บแสงสวยๆแป๊บ...



ผมนี่โคตรโชคดีเลยครับ รู้มั้ย เวลาไปจังหวัดไหนก็มักจะมีเพื่อนมาคอยดูแล

อันที่จริงเขาเหล่านั้นไม่รู้จะอยากเจอเรารึเปล่านะ แต่เราก็จะหามันจนเจอ  คืนนั้นก็เหมือนกัน มีเพื่อนสุดสวยแสนดีที่(เราบังคับให้)อาสาพาไปกินข้าว เกรงใจนะเนี่ย แต่ก็เนียนๆไปครับ ดีกว่าต้องหากินเอง
ไม่ขอเอ่ยชื่อนะ ถ้าเธอคนนั้นผ่านมาอ่านเจอก็ขอขอบคุณอีกที และรู้ไว้เลยว่าเดี๋ยวเราจะไปหาอีก และไม่ต้องคิดจะหลบนะ เพราะยังไงเราก็จะตามหาจนเจอ...

บอกแล้วว่าผมเป็นคนขี้เกรงใจ


คืนนั้นเราไปกันที่ร้านอาหารของ สวนดอย รีสอร์ท
เป็นร้านที่น่าไปมากๆ โดยเฉพาะตอนพลบค่ำ เราจะได้กินข้าวเคล้าวิวเมืองปายยามค่ำคืน สวยเกิ้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาดูเอง
GPS : 19°21'36" N 98°26'55" E

อ้อ.. ลืมบอกไป ตอนเย็นผมแวะไปวัดมาด้วยนะ วัดแม่เย็น
ผมว่าวัดนี้มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยจุดนึงเลย



กิจกรรมที่ไม่ว่าใครมาที่นี่ก็ต้องทำ คือช้อบปิ้งที่ถนนคนเดิน
ฤดูนี้แม้ไม่มีหมอกหรือความหนาวเย็นให้สัมผัสมากนัก แต่สิ่งที่ได้คืนมาคือ เมื่อนักท่องเที่ยวมีไม่มากมาย เราจะได้เห็นปายอย่างที่มันเป็น


หากคุณนึกภาพอันแสนอบอุ่นด้วยผู้คนคราคร่ำเดินกันไหล่เบียดไหล่...
บ่องตง กลางเมษาหน้าร้อนอย่างวันนี้  ไม่มีภาพแบบนั้นให้เห็นหรอกครับ
ผู้คนคงจะลงดอยไปเล่นน้ำสงกรานต์กันหมดตามที่คาดไว้




ผมเดินดูของไปเรื่อยเปื่อย คุยโน่นโม้นี่กับคนนั้นทีคนนี้ที แอบมองคนผ่านไปผ่านมา อารมณ์ถ่ายLifeมาเลยครับ ณ เวลานั้น

นักท่องเที่ยวบางตา ดีสำหรับคนเดินแต่คงแย่นิดนึงกับคนขาย
การมีลูกค้าเข้าร้าน มันไม่ง่ายเลย แต่ที่ยากกว่าคือ เมื่อลูกค้ามาแล้วจะปิดการขายอย่างไร

ผมนี่ลุ้นอยู่ห่างๆเลยกับหนูน้อยคนนี้ เธอคิดอะไรอยู่นะ..
เธอจะดึงเม็ดเงินเข้าประเทศเราได้มั้ยน้อ..
Wish
สิ่งที่กระชากเงินอันน้อยนิดในกระเป๋าของเราไปได้โดยง่ายคือ เวลาที่เจอคุณยายน่าตาน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้
โดนทุกทีครับ คราวนี้ก็โดนกระเป๋ายายแกไปหลายใบเลย...



ช้อปกันจนอิ่ม ดริ้งกันอีกนิดหน่อย เราก็เข้านอนกันอย่างอิดโรย เจอกันพรุ่งนี้อีกทีนะ ปาย..

zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz

เช้าของอีกวัน

กิจกรรมที่ทำทุกครั้งเมื่อไปต่างถิ่น ผมชอบที่จะตื่นเช้าๆเดินเล่นในเวลาที่แสงสวยและไร้ผู้คน เพื่อเก็บภาพประทับใจเหล่านั้นไว้

ถึงแม้มันเป็นเส้นทางเดิมที่เป็นถนนคนเดินเมื่อคืน แต่ยามเช้าแบบนี้ ภาพที่เห็นและอารมณ์มันต่างกันสิ้นเชิง อย่างเช่นวัดนี้ วัดกลาง เราไม่ได้สังเกตว่ามีอยู่ด้วยซ้ำในยามค่ำคืน


ขณะที่กำลังเพลินกับการเก็บภาพ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

"ไปไหนของเมิง!!! กรูหิว..."

ให้ทายครับ ว่าใครโทรมา....
เมื่อสิ้นเสียง สิ่งเดียวที่ทำได้คือ กลับที่มั่นให้ไวที่สุด ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย จนไม่สามารถควบคุมได้ . . .


อาหารเช้าที่มาพร้อม Package ที่พัก ชอบนะ ออกแนวฝรั่งๆ
ทานกันพอหอมปากหอมคอ ขนมปัง สลัด ชา กาแฟ...
มีแรงไปเที่ยวแล้ว ไป เราไปกันเลย

ผมนี่เป็นโรคแพ้ที่สูงครับ เห็นเป็นไม่ได้..

ที่แรกที่ไปคือ
ดอยหยุนไหล
GPS : 19°22'14" N 98°24'13" E

เคยเห็นแต่รูปที่มีหมอกมาบัง วันนี้ได้ดูแบบใสเคลียร์สมใจ



วิวแบบนี้ ผมนี่ ขออึ้งแป๊บ...
ตีนดอยมีที่ให้ใช้ตังค์ด้วยนะ เป็นหมู่บ้านของฝากกันเลยทีเดียว
ถ้าไปแถวนั้น ลองแวะดูครับ
ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนาน บ้านสันติชล
GPS : 19°22'15" N 98°24'15" E

สายแล้ว ร่างกายต้องการคาเฟอีนละสิทีนี้ ร้านกาแฟร้านแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือ Coffee In Love 
โดนเป่าหูมาไม่น้อยว่า ถ้ามาปายต้องไปให้ได้
ขับรถออกนอกเมืองมาประมาณ 3km ตามถนน 1095 ก็จะเจอ Coffee In Love



บอกตามตรงผมจำรสชาติกาแฟแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะว่า..
ที่นี่เขามีดีมากกว่ากาแฟ นี่มันสวน Portrait ชัดๆ เมามันส์กับการถ่ายรูปจนลืมกาแฟเลยทีเดียว
บอกเลยว่าใครชอบ Selfie ต้องเอา Memory Card มาเยอะๆนะ

สวนดอกไม้ @ Coffee In Love
กินน้ำกินท่ากันพอหายเหนื่อย ชะโงกทัวร์ขอพาไปต่อกันที่ กองแลน ไม่สิชื่อนี้ฟังดูไม่ Inter มันต้อง

ปายแคนยอน
GPS : 19°20'27" N 98°25'57" E

ถัดมาจาก Coffee In love อีกประมาณ4km เราก็จะเจอลานจอดรถ หาไม่ยากเพราะมีศาลาหน้าตาอลังการสังเกตง่าย
เดินต่อจากลานจอดรถขึ้นไปบนเขาประมาณ 300เมตร สูงไม่มาก เดินสบายๆ ไม่ต้องกลัว


สันดินที่เกิดจากการทรุดตัวบนเขาสูง ทำให้ที่นี่เกิดภูมิทัศน์ที่แปลกตา


ใครอยากหาความตื่นเต้นท้าทาย มาเดินเล่นตามสันดินที่นี่สิครับ ผมว่ามันแก้เซ็งได้ดีเลยนะ
ในช่วงหน้าหนาว เขาว่าที่นี่เป็นจุดที่ดูทะเลหมอกได้เป็นอย่างดี
ถึงไม่มีหมอกก็ดูทะเลภูไปก่อนนะครับ
Pai Canyon
ระหว่างเดินทางกลับ เราเหลือบไปเห็นร้านน่ารักน่ารักร้านหนึ่ง แม้ว่าจะขับรถเลยไป แต่มันเตะตาเสียจนต้องวนรถกลับ

ปายนาปายตา
GPS : 19°20'36" N 98°25'59" E



 หลังจากไปเดินเล่นที่กองแลนจนเหนื่อย ที่แวะร้านนี้ในตอนแรกแค่อยากหาน้ำเย็นๆดื่มเพื่อคลายร้อน
พบว่ามีเมนูของที่น่าสนใจหลายรายการครับ ส่วนใหญ่จะเน้นอาหารสุขภาพ





และด้วยการตกแต่งที่สะดุดตา มันก็ทำให้เกิดอาการคัน ต้องขอลองเดินสำรวจรอบๆดูเสียหน่อย
ด้านหลังของร้านมีบ้านพัก เป็นบ้านดิน6หลัง น่ารักมากครับ พี่เจ้าของบ้านก็ใจดีเปิดบ้านให้เราเข้าไปชมภายในห้องพักแต่ละหลังด้วย











ด้วยความสร้างสรรค์ การตกแต่งที่สวยงาม กับบรรยากาศท้องทุ่งเงียบๆเรียบง่าย และราคาก็ไม่แพง มันโดนมากๆครับ
บอกกับตัวเองเลยว่าถ้ามาปายคราวหน้า แล้วไม่พักที่นี่ ก็บ้าแล้ว

เราอยู่ที่ปายนาปายตาจนกระทั่งเย็นจึงกลับเข้าตัวเมืองปาย ใช้เวลาในค่ำคืนสุดท้ายเก็บเกี่ยวความประทับใจให้คุ้มค่า




คืนนั้นเป็นคืนที่ทรมานอีกคืน ถ้าคุณเจอที่ที่ใช่ แล้วคุณต้องเก็บกระเป๋าเพื่อพรุ่งนี้จะต้องจากไป เชื่อเถอะคุณต้องรู้สึกเหมือนกับที่ผมรู้สึกกับ "เมืองที่ใครหลายคนว่ามันไม่มีอะไร" เมืองนี้เหมือนกัน

เช้านี้เหงาหงอย ยืนตัวลอยๆเหม่อมองไปรอบๆด้วยอารมณ์อาลัยอาวรณ์
ต้องจากเมืองนี้ไปแล้วสินะ...


ที่เขาว่าเมืองนี้ไม่มีอะไร เชื่อเขาเถอะครับ ผมว่ามันไม่มีจริงๆ
ไม่มีเรื่องวุ่นวาย
ไม่มีผู้คนมากมาย (อย่าลืม ผมมาตอนเมษาฯหน้าร้อนนะ)
ไม่มีอะไรต้องให้รีบ
ซึ่งที่ที่เราใช้ชีวิตประจำวันอยู่นี้ มันไม่มี

ถึงแล้วนะ ปาย แต่ทริปเราไม่ได้จบแค่ที่นี่
ถ้าไม่ติดธุระอะไร ตามมาครับ

ออกจากที่นี่แล้วเราจะมุ่งหน้าไปตัวเมืองแม่ฮ่องสอนกัน
เจอกันตอนหน้านะครับ สวัสดี

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม